อุทยานธรณีผาชัน สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี

ข้อมูลทั่วไป

อุทยานธรณีผาชัน สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดตั้งและประกาศเป็นอุทยานธรณีท้องถิ่นเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ครอบคลุม ๔ อำเภอ ได้แก่ อำเภอสิรินธร อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร มีพื้นที่ ๑,๙๙๔ ตารางกิโลเมตร อุทยานธรณีผาชัน สามพันโบก แบ่งพื้นที่ตามธรณีวิทยาเป็น ๓ โซน ประกอบด้วย

  • ๑. ดินแดนแห่งไดโนเสาร์ยุคสุดท้าย ตำบลนาคำ ตำบลสงยาง ตำบลนาเลิน และตำบลลาดควาย อำเภอศรีเมืองใหม่
  • ๒. แหล่งธรรมชาติแปลกตา ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติผาแต้มบางส่วนของอำเภอโพธิ์ไทรในเขตตำบลสองคอน ตำบลเหล่างาม และตำบลสำโรง บางส่วนของอำเภอศรีเมืองใหม่ในเขตตำบลหนามแท่ง และบางส่วนของอำเภอโขงเจียมในเขตตำบลห้วยไผ่ และตำบลนาโพธิ์กลาง
  • ๓. เขตแม่น้ำสองสี ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม และตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร

อุทยานธรณีผาชันสามพันโบกประกอบด้วย แหล่งธรณีวิทยา ๔๒ แหล่งแหล่งโบราณคดีและแหล่ง วัฒนธรรม ๘ แหล่ง รวมทั้งสิ้น ๕๐ แหล่งดังนี้

  • แหล่ธรณีวิทยา

  • ๑. กลุ่มเสาเฉลียง วัดผานางคอย                
  • ๒. แก่งตะนะ                                      
  • ๓. แก่งสเลกอน                                    
  • ๔. ถ้ำเจีย                                           
  • ๕. ถ้ำปาฏิหาร์ย                                  
  • ๖. ถ้ำพระ                                        
  • ๗. ถ้ำมืด                                          
  • ๘. น้ำตกกิ๊ด                                             
  • ๙. น้ำตกตาดโตน                                 
  • ๑๐. น้ำตกโบกลึก                                   
  • ๑๑. น้ำตกผาหลวง                                  
  • ๑๒. น้ำตกสร้อยสวรรค์                                      
  • ๑๓. น้ำตกแสงจันทร์                              
  • ๑๔. น้ำตกห้วยนาเมืองใหม่                        
  • ๑๕. น้ำตกห้วยพอก                               
  • ๑๖. โบกแก่งสร้อย                               
  • ๑๗. ปากบ้อง                                                  
  • ๑๘. ผาเจ๊ก                                           
  • ๑๙. ผาชนะได                                              
  • ๒๐. ผาชัน                                           
  • ๒๑. ผาแต้ม
  • ๒๒. ผาเมย
  • ๒๓. ผาวัดใจ-สองคอน
  •  ๒๔. ผาชัน-ผาสิลาเลข
  • ๒๕. ภูอานม้า 
  • ๒๖. แม่น้ำสองสี
  • ๒๗. สามพันโบก
  • ๒๘. ลานผาผึ้ง
  • ๒๙. สวนหินสีประกายแสง
  • ๓๑. สามหมื่นรู
  • ๓๒. เสาเฉลียง บ้านโป่งเป้า
  • ๓๓. เสาเฉลียงคู่  
  • ๓๔. เสาเฉลียงยักษ์
  • ๓๕. เสาพญาครุฑ
  • ๓๖. เสาระเบียง ภูจันทร์แดง
  • ๓๗. หาดวิจิตรา – แก่งพิสมัย
  • ๓๘. หาดสลึง
  • ๓๙. หาดหงส์ – ภูกองข้าว
  • ๔๐. หินเต่าชมจันทร์
  • ๔๑. ภูสะมุย                                       
  • ๔๒. แหล่งไดโนเสาร์ยุคสุดท้าย
  • แหล่งโบราณคดีและแหล่งวัฒนธรรม
  • ๑. ถ้ำขาม – สูบหิน                              
  • ๒. ถ้ำนางเข็ญฝ้าย                                
  • ๓. ผาหมอน                                               
  • ๔. ภูหล่น
  • ๕. โหง่นแต้ม
  • ๖. ภูโลง
  •  ๗. ภาพเขียนสีผาแต้ม
  • ๘. รอยเกวียนโบราณ                                           

ความสําคัญหรือความโดดเด่นทางธรณีวิทยาในระดับนานาชาติ อุทยานธรณีผาชันสามพันโบกมีลักษณะทางธรณีวิทยาที่โดดเด่นระดับนาชาติ ๓ ด้าน ประกอบด้วย

  • ๑. แหล่งซากดึกดําบรรพ่ไดโนเสาร่ยุคสุดท้าย ที่มีอายุของไดโนเสาร์อ่อนที่สุดในประเทศไทย
  • ๒. แหล่งสามพันโบก ที่คาดว่าน่าจะมีโบกหรือกุมภลักษณ์มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
  • ๓. แหล่งสามหมื่นรู มีรูของพื้นผิวของหินทรายที่มีความยาวของพื้นที่ที่มีรูคาดว่าน่าจะมากที่สุดในอาเซียน

ความก้าวหน้าในการดำเนินงาน

  • ๑.คณะกรรมการส่งเสริมการอนุรักษ์แหล่งธรณีวิทยาและจัดตั้งอุทยานธรณี ได้รับการรับรองอุทยานธรณีผาชันสามพันโบกเป็นอุทยานธรณีประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๒ และต้องได้รับการประเมินซ้ำเพื่อคงสถานะเป็นอุทยานธรณีประเทศไทยในเดือนเมษายน ๒๕๖๖
  • ๒. ปัจจุบัน กรมทรัพยากรธรณีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสถาบันการศึกษาในจังหวัดอุบลราชธานี ในการส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนายกระดับอุทยานธรณีผาชัน สามพันโบก เช่น การอบรมให้ความรู้แก่มัคคุเทศก์ในพื้นที่ การสนับสนุนการจัดทำแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยาในพื้นที่และสถานศึกษาต่างๆ ในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้น
  • ๓. ผู้ประเมินภาคสนามได้ดำเนินการประเมินซ้ำเพื่อคงสถานะการเป็นอุทยานธรณีประเทศไทยเมื่อวันที่ ๑๔ – ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๖ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการประเมินภาคสนามเพื่อเสนอเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการประเมินภาคสนามดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป